รีวิว The Predator (2018) เดอะ เพรดเดเทอร์ – เมื่อเพรดเดเทอร์ไม่ได้มาแค่ตัวเดียว
The Predator (2018) เดอะ เพรดเดเทอร์ เป็นภาพยนตร์ภาคที่ 4 ในแฟรนไชส์ Predator (ไม่นับรวม Alien vs. Predator) ที่กำกับและร่วมเขียนบทโดย เชน แบล็ค (Shane Black) ซึ่งเคยเป็นนักแสดงใน Predator ภาคแรก (1987) มาก่อน การกลับมาครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะสร้างความสดใหม่ให้กับแฟรนไชส์ โดยผสมผสานแอ็กชัน ความโหด และอารมณ์ขันอันเป็นเอกลักษณ์ของเชน แบล็คเข้าไปด้วย
เรื่องย่อ
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ ควินน์ แม็คเคนน่า (Quinn McKenna – Boyd Holbrook) อดีตพลซุ่มยิงของกองทัพบกสหรัฐฯ ได้พบเจอเข้ากับยานอวกาศของเพรดเดเทอร์ระหว่างปฏิบัติภารกิจในเม็กซิโก เขาขโมยอุปกรณ์บางอย่างมาจากยานลำนั้นก่อนที่หน่วยงานลับของรัฐบาลจะเข้ามาเก็บกวาดหลักฐาน
เพื่อปกปิดเรื่องนี้ รัฐบาลจึงจับควินน์ไปสอบสวนและส่งเขาไปรวมกับกลุ่มทหารผ่านศึกที่มีปัญหาทางจิตที่ถูกคุมขังอยู่บนรถบัส แต่แล้วสถานการณ์ก็พลิกผัน เมื่อ เพรดเดเทอร์ ที่หลุดออกมาจากยานลำนั้นได้ตามมาถึงสถานที่คุมขัง และเริ่มออกล่าทุกคนอย่างโหดเหี้ยม
ในขณะเดียวกัน เคซีย์ แบร็คเก็ตต์ (Casey Bracket – Olivia Munn) นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาวิวัฒนาการ ถูกเรียกตัวมาร่วมทีมสืบสวนเกี่ยวกับเพรดเดเทอร์ เธอและกลุ่มทหารหัวร้อนของควินน์ต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชีวิตรอดจากการไล่ล่าของเพรดเดเทอร์ตัวนี้ และยังต้องเผชิญหน้ากับ “อัพเกรดด์ เพรดเดเทอร์” (Upgrade Predator) เพรดเดเทอร์ตัวใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่า ฉลาดกว่า และอันตรายกว่าเดิม ซึ่งมันได้เดินทางมายังโลกด้วยเหตุผลบางอย่างที่เชื่อมโยงกับการวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์เพรดเดเทอร์เอง
สิ่งที่น่าสนใจใน The Predator:
- การกลับมาของ Shane Black: การที่ผู้กำกับที่มีสไตล์โดดเด่นอย่างเชน แบล็ค (ผู้สร้าง The Nice Guys, Iron Man 3) มารับหน้าที่กำกับ ทำให้หนังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งมุกตลกคมคายที่แทรกมาอย่างเป็นธรรมชาติ และฉากแอ็กชันที่ดุเดือด ไม่เกรงใจใคร
- เพรดเดเทอร์ที่หลากหลายและอัปเกรด: หนังนำเสนอเพรดเดเทอร์หลายสายพันธุ์ ไม่ใช่แค่ตัวเดียว แต่ยังมีการแนะนำ “อัพเกรดด์ เพรดเดเทอร์” ที่ทรงพลังและดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น ทำให้ภัยคุกคามดูใหญ่หลวงกว่าที่เคย
- ฉากแอ็กชันที่โหดสะใจ: ด้วยเรท R ทำให้ภาพยนตร์ใส่ความรุนแรง เลือดสาด และฉากการสังหารที่โหดร้ายตามสไตล์ของเพรดเดเทอร์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งน่าจะถูกใจแฟนๆ ที่โหยหาความดิบเถื่อน
- ตัวละครกลุ่มทหารที่แปลกแต่มีเสน่ห์: กลุ่มทหารที่ควินน์ต้องร่วมทีมด้วย เป็นตัวละครที่แต่ละคนมีปัญหาทางจิต แต่การปฏิสัมพันธ์และมุกตลกที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขากลับสร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้กับเรื่องได้เป็นอย่างดี
- การขยายตำนานของเพรดเดเทอร์: ภาพยนตร์พยายามที่จะเจาะลึกเข้าไปในตำนานและต้นกำเนิดของเพรดเดเทอร์มากขึ้น รวมถึงเหตุผลที่พวกมันเดินทางมายังโลก ซึ่งเป็นการเพิ่มมิติให้กับแฟรนไชส์
ข้อสังเกต:
- พล็อตเรื่องที่ค่อนข้างวุ่นวาย: ด้วยการพยายามใส่รายละเอียดและตัวละครจำนวนมาก ทำให้พล็อตเรื่องบางช่วงอาจรู้สึกยุ่งเหยิงและไม่กระชับเท่าที่ควร การตัดสินใจบางอย่างของตัวละครก็อาจดูไม่สมเหตุสมผลนัก
- อารมณ์ขันที่อาจไม่ถูกจริตทุกคน: มุกตลกสไตล์เชน แบล็ค ที่ค่อนข้างแห้งและเสียดสี อาจจะไม่เข้าถึงผู้ชมทุกคน และอาจทำให้บางช่วงรู้สึกขัดแย้งกับโทนแอ็กชันโหดๆ ของหนัง
- CGI ที่ดูไม่เนียนในบางจุด: แม้จะเป็นหนังฟอร์มใหญ่ แต่ CGI ของเพรดเดเทอร์บางตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัพเกรดด์ เพรดเดเทอร์ อาจดูไม่สมจริงเท่าที่ควรในบางฉาก ทำให้ลดทอนความน่ากลัวลงไปบ้าง
สรุปรีวิว
The Predator (2018) เดอะ เพรดเดเทอร์ เป็นภาพยนตร์ที่มีความทะเยอทะยานที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับแฟรนไชส์ มันเต็มไปด้วยแอ็กชันที่โหดสะใจ มุกตลกที่โดดเด่น และการพยายามขยายจักรวาลของเพรดเดเทอร์ แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องในเรื่องของพล็อตที่ซับซ้อนและการตัดสินใจบางอย่างที่น่ากังขา แต่หากคุณเป็นแฟนของแฟรนไชส์ Predator ที่มองหาความบันเทิงแบบดิบๆ และชอบสไตล์การเล่าเรื่องของเชน แบล็ค นี่คือภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาด
คะแนน: 6.5/10
The Predator (2018) เดอะ เพรดเดเทอร์
เรื่องราวเกิดขึ้นที่ จากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น สู่ถนนเล็กๆ ในย่านชานเมือง การไล่ล่ากลับมาอีกครั้ง ในซีรีย์เพรดเดเทอร์อันโด่งดังของเชน แบล็ค Crime อาชญากรรม และในตอนนี้ นักล่าที่อันตรายที่สุดในจักรวาลก็แข็งแกร่งขึ้น ฉลาดขึ้น และอันตรายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
The Predator (2018) เดอะ เพรดเดเทอร์
พวกมันตัดต่อพันธุกรรมของตนเองเข้ากับดีเอ็นเอของสปีชี่อื่นๆ ในจักรวาล และเมื่อเด็กชายคนหนึ่งบังเอิญกระตุ้นให้พวกมันกลับมาที่โลกอีกครั้ง Crimeอาชญากรรม มีเพียงสมาชิกแร็กแท็กจากอดีตทหาร และอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์อีกหนึ่งคนที่ไม่ได้รับการยอมรับเท่านั้น ที่จะช่วยไม่ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องสิ้นสุดลง
เดอะ เพรดเดเทอร์ (อังกฤษ: The Predator) เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นนิยายวิทยาศาสตร์สัญชาติอเมริกันที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2018 กำกับโดย เชน แบล็ก และเขียนบทโดย เชน แบล็ก และ เฟร็ด เดคเคอร์ เป็นภาคที่สี่ในแฟรนไชส์ พรีเดเตอร์ แบล็กมีหน้าที่สนับสนุนในภาพยนตร์ต้นฉบับในขณะที่ จอห์น เดวิส กลับมาในฐานะผู้อำนวยการสร้างจากสามภาคแรก นำแสดงโดย บอยด์ โฮลบรู๊ก, เทรวานเท โร้ดส์, เจคอบ เทรมเบลย์, คีแกน ไมเคิล คีย์, โอลิเวียร์ มันน์, โทมัส เจน, อัลฟี อัลเลน และ สเตอร์ลิง เค. บราวน์ เนื่อเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มทหารที่ประสบปัญหาโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงและนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับพรีเดเตอร์คู่หนึ่งที่บุกรุกเข้ามาและค้นพบแผนการของพวกเขาสำหรับมนุษยชาติ
การพูดคุยเกี่ยวกับภาคใหม่ของ พรีเดเตอร์ เริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนปี ค.ศ. 2014 โดย เชน แบล็ก ได้ยืนยันว่าจะนักเขียนและกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ นักแสดงส่วนใหญ่เซ็นสัญญาระหว่างเดือนตุลาคม ค.ศ. 2016 ถึงมกราคม ค.ศ. 2017 การถ่ายทำเกิดขึ้นในรัฐบริติชโคลัมเบียตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน ค.ศ. 2017 โดยมีการเขียนบทไคลแม็กซ์ทั้งหมดและถ่ายทำใหม่ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2018 หลังจากการรอบฉายทดลองที่ได้ผลตอบรับที่ไม่ดี
