A Twelve Year Night (2018) 12 ปี ฝันร้ายไม่ลืม

A Twelve Year Night (2018) 12 ปี ฝันร้ายไม่ลืม

A Twelve Year Night (2018) 12 ปี ฝันร้ายไม่ลืม

ปีที่ฉาย : 2018

เสียง : ซับไทย

7.5/10

เวลาฉาย : 122 นาที

HD

A Twelve Year Night (2018) 12 ปี ฝันร้ายไม่ลืม ดูหนัง 

A Twelve Year Night (2018) 12 ปี ฝันร้ายไม่ลืม ดูหนัง สำหรับบางคน การเช็ดกทิ้งให้อยู่ตามลำพังคนเดียวเพียงแต่หนึ่งวัน บางทีก็อาจจะทนไม่ไหวแทบจะขาดใจตาย แม้กระนั้นสำหรับคนสามคนการเช็ดกขังอย่างเป็นเวลานานกว่าสิบสองปีไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ในทางตรงกันข้ามช่วงเวลากลับทำให้พวกเขายิ่งมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และก็อุดมการณ์ของเขาก็ยังคงไม่ตายจากไป

แล้วอะไรล่ะที่เป็นแรงขับดันที่ทำให้พวกเขามีกำลังใจจะสู้ถัดไปจนถึงวันที่อิสระ 12 ปี ฝันร้ายไม่ลืม 1973 อุรุกวัยถูกปกครองโดยเผด็จการทหาร คืนหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง นักโทษทูปามาโรสามคนถูกนำตัวออกจากห้องขังในปฏิบัติการลับทางทหาร คำสั่งนั้นแม่นยำ: “เพราะเราไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ ให้พวกมันบ้าไปเลย” ชายสามคนจะถูกคุมขังเดี่ยวเป็นเวลาสิบสองปี หนึ่งในนั้นคือ Pepe Mujica ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นประธานาธิบดีของอุรุกวัย

ชื่อภาพยนตร์ : A Twelve Year Night (2018) 12 ปี ฝันร้ายไม่ลืม

ผู้กำกับ : อัลวาโร เบรชเนอร์

นักเขียน : Álvaro BrechnerMauricio Rosencoff(หนังสือ “Memorias del calabozo”)Eleuterio Fernández Huidobro(หนังสือ “Memorias del calabozo”)

ดาว:อันโตนิโอ เด ลา ตอร์เรชิโน ดารินอัลฟองโซ โคนร์ต

เรื่องย่อ

ภาพยนตร์เชื้อชาติอุรุกวัยเรื่องนี้เป็นผลงานของ อัลวาโร่ เบรชเนร์ ผู้กำกับชนชาติเดียวกัน นำแสดงโดย อันโตนิโอเดอลาตอเร่ , ชิโน่ ดาร์ริน รวมทั้ง อัลฟองโซ่ ตอร์ต หนังประเด็นนี้ได้รับแรงผลักดันสำหรับการผลิตขึ้นมาจากงานหนังสือที่ชื่อว่า El regreso del Gran Tuleque (1987) ของเมาริซิโอ้ โรเซนคอฟ หนึ่งในสามผู้ต้องขังตัวเอกของเรื่องผู้ถูกกักขังมาอย่างนานโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร หนังได้เป็นตัวแทนของอุรุกวัยสำหรับการเสนอชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศเหมาะสมที่สุด

แม้กระนั้นไม่ได้เข้ารอบในที่สุดไปอย่างน่าเสียดายหนังบอกเล่าเรื่องราวของการถูกคุมขังของ โฮเซ่ “เปเป้” มูฆิก้า ( เดอลาโคนเร่ ) เมาริซิโอ้ “รูโซ่” โรเซนคอฟ ( ดาร์ริน) แล้วก็ เอเลเตริโอ้ เฟร์นันเดซ “ญาโต” อุยโดโบร ( ตอร์ต ) สมาชิกของกลุ่มกองโจรสังคมนิยม “ตูขว้างมาโร่” ที่ถูกจับมาตั้งแต่ปี 1972 ในฐานะผู้ต้องขังก่อนที่จะผันแปรมาอยู่ในฐานะตัวประกันเพื่อต่อรองไม่ให้กรุ๊ปโจรจู่โจมรัฐบาลทหาร ซึ่งตลอดเวลาอีกทั้งสิบสองปีพวกเขาจะต้องฟันฝ่าอุปสรรค ถูกทารุณทั้งยังร่างกายจิตใจ ถูกคาดคั้นให้คายความลับรวมไปถึงการถูกเคลื่อนย้ายสถานที่ไปตามค่ายทหารไปเรื่อยพวกเขาอีกทั้งสามจำต้องทำทุกวิธีการเพื่อให้รอดชีวิตไปวันๆเพื่อรอวันที่พวกเขาจะได้เจอกับอิสระถ้าหากฮอลลีวู้ดจะมีชอว์แชงค์ หรือ กรีนไมล์ที่เป็นหนังเกี่ยวกับการถูกติดคุกที่สุดยอดแล้ว

หนังประเด็นนี้เองก็จะต้องนับว่าดีเยี่ยมที่สุดไม่แพ้กันหากแม้บางครั้งก็อาจจะไม่เข้าขั้นระดับตำนานอย่างสองประเด็นนั้น แม้กระนั้นหัวข้อนี้ก็ชดเชยด้วยความมองเรียลรวมทั้งเหมือนจริงเอามากๆไม่ว่าจะเป็นสภาพในตารางที่มองทารุณมากๆและสภาพของสามตัวเอกที่ถูกขังก็มองว่ามีสภาพร่างกายรวมทั้งจิตใจที่ดูทรุดโทรมได้เนียนตาเอามากๆรวมไปถึงสถานที่ถ่ายทำที่ให้เราได้มองเห็นธรรมชาติของอุรุกวัยที่ดูเขียวชอุ่มและก็สวยมากมายๆอีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบก็คือเรื่องของการเอาเพลงมาประกอบกับการเดินเรื่องที่ดูแมทช์กัน

กดดันอารมณ์ของพวกเรามากๆดังเช่น การเอาเพลง The Sound of Silence มาสื่อแทนความรู้สึกของผู้แสดงทั้งสามในเวลานั้นได้อย่างดีเยี่ยม มีฉากหนึ่งที่ผมมีความเห็นว่าเด็ดสะระตี่และแสบสันต์มากมายก็คือ ฉากที่ญาโตจะขอนั่งยองขี้ แต่ด้วยกุญแจมือทำให้เขานั่งยองมิได้จนกระทั่งจำต้องขอทหารให้ช่วยคลายกุญแจมือ แต่พลทหารคนนั้นตัดสินใจไม่ได้ก็ไปตามหมู่ หมู่ก็ตกลงใจมิได้จึงไปตามจ่านายสิบตามหมวด หมวดตามผู้กอง ผู้กองตามผู้พัน ผู้พันมาถึงบอก ตามฉันมาแค่เนี้ยนี่นะ

สรุป ไม่มีใคร ตกลงใจ สักคน

สะท้อนให้มองเห็นถึงสายการบังคับบัญชาของทหารได้ชัดเจน รวมทั้งจี้ใจดำมากมายสำหรับในการแสดงของอีกทั้งสามคน สั้นๆครับผม เหมาะสมที่สุดมาก เดอลาตอเร่ เล่นเป็นเปเป้ ชายที่สติใกล้แตกเหลือเกินที่เจอกับอาการประสาทหลอนเพราะการถูกกดดันและก็ทรมาทรกรรม แต่ว่าสุดท้ายเขาก็เรียกสติแล้วก็พากเพียรเอาชนะให้ได้สุดท้าย

ดาร์ริน ในบทของรูโซ่ ชายผู้สุขุมและก็ใช้ความฉลาดสำหรับเพื่อการเอาตัวรอดโดยใช้ความรู้สำหรับการเป็นคนเขียนเพื่อแลกกับความสบายบางส่วนก็เพียงพอแล้ว และ โคนร์ต ในบทของ ญาโต เด็กหนุ่มที่มองดูราวกับจะปราศจากความกล้าแม้กระนั้นตามที่เป็นจริงความอาจหาญของเขาคือการยินยอมรับข้อเท็จจริงและไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรม

นานแล้วที่พวกเราไม่ได้ดูหนังที่เกี่ยวกับการเช็ดกจำจองดีๆแบบนี้ ผู้ใดกันแน่ที่ถูกใจหนังสไตล์เรือนจำ หรือแนวประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง หนังสะท้อนให้เรามองเห็นถึงค่าของอิสรภาพที่เราควรหวงแหนมันให้มากมายๆสิ่งหนึ่งที่ขับให้มนุษย์เรานั้นยังมีชีวิตอยู่ ก็คือความคาดหวัง หวังว่าจะได้กลับไปพบคู่รัก หวังว่าประเทศของเราจะไปสู่แนวทางที่ดี รวมทั้งการกักขัง ก็ขังได้แค่ตัวแค่นั้

น แต่จิตวิญญานของพวกเราไม่ได้ถูกจองจำไปด้วย ให้คะแนน 9 เต็ม 10 ขอรับ ตัดนิดเดียวตรงที่น่าจะเพิ่มที่ไปที่มาของนักแสดงให้ครบทุกตัวว่าทำไมเขาถึงมาเจอโชคชะตาเช่นนี้ ขอเสริมอีกนิดครับ สำหรับโฮเซ่ “เปกระเป๋า” มูฆิก้านั้น ในท้ายที่สุดปี 20[10 เขาก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำผู้ที่ 40 ของอุรุกวัย รวมทั้งเขาเองก็เป็นประธานาธิบดีที่มีชื่อเสียงว่าโคตรสมถะคนนึงในโลกนี้เลย

หนังที่เกี่ยวข้อง

7.6/10

HD

ซับไทย

Better Man (2024)

6.7/10

HD

ซับไทย

Can You Feel the Beat The Lisa Lisa Story (2025)

5.8/10

ZOOM

เสียงโรง

Captain America Brave New World (2025) กัปตัน อเมริกา ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่

7.3/10

ZOOM

เสียงโรง

Green and Gold (2025)